minddream: สนุกกับฤดูร้อนในญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงฤดูร้อนแล้วก็ต้องนึกถึงเทศกาลต่างๆ ในฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ หญิงสาวใส่ชุดยูกาตะ ใบไม้เขียวสดและดอกไม้สีสันสดใสที่แข่งกันบาน รวมถึงเสียงร้องระงมของจักจั่นให้บรรยากาศฤดูร้อนเต็มรูปแบบ ส่วนเรื่องอาหารนั้น คนญี่ปุ่นนิยมกินโซเม็งเย็น บะหมี่สีขาวเส้นเล็กแบบเย็น น้ำแข็งใส แตงโม ชามูกิหรือชาจากข้าวสาลีคั่วให้คลายร้อน เพลิดเพลินกับบรรยากาศสนุกสนานแบบญี่ปุ่นในฤดูร้อนได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ส.ค.

10465336_653647791398532_169870731741653106_o

มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม อากาศในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นอุณหภูมิอากาศคล้ายกับที่เมืองไทย ดังนั้นสามารถเอาเสื้อผ้าแบบที่ใช้ในเมืองไทยไปได้ และอย่าลืมโลชั่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ แว่นตากันแดด หมวกสำหรับกันแดด แต่ควรให้นำแจ็กเก็ตหรือเสื้อคลุมอย่างบางไปด้วย สำหรับถ้าอากาศเย็นในช่วงกลางคืน และไม่ควรลืมผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับเช็ดเหงื่อและควรดื่มน้ำให้บ่อยขึ้นเพื่อทดแทนเหงื่อที่เสียไปจากความร้อน

เทศกาลในฤดูร้อน หน้าร้อนในญี่ปุ่นคือฤดูแห่งเทศกาลต่างๆ ที่จัดทั่วประเทศ เทศกาลที่ขึ้นชื่อได้แก่ เทศกาลกิอง ในเกียวโต เทศกาลมิยาจิม่าคันเกน ในฮิโรชิม่าหรือเทศกาลที่สนุกสนานไปกับการเต้นรำอย่างรำอะวะโอะโดะริ ที่จังหวัดโทคุชิมะและ เทศกาลโยะสะโคอิ ซึ่งจัดในภูมิภาคชิโคคุ รวมถึงเทศกาลโอบ้งในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ที่ชาวญี่ปุ่นจะเดินทางกลับบ้านเกิดและเป็นช่วงวันหยุดยาว สถานที่ท่องเที่ยว ยานพาหนะและโรงแรมจึงคับคั่งไปด้วยผู้คน ควรเตรียมการล่วงหน้าจองที่พักและพาหนะสำหรับหน้าเทศกาล

หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นคือฤดูแห่งดอกไม้ไฟ ดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่นนั้นมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่สุดในสถิติโลก มีรูปร่างหลายแบบ ที่นิยมก็คือแบบดินระเบิดรูปดาวที่สามารถระเบิดแตกออกมาได้หลายรูปแบบ นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่นก็คืองานเทศกาลที่มีบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ผู้คนแต่งชุด Yukata มาเดินร่วมงานที่เรียงรายไปด้วยร้านแผงลอยที่มีทั้งอาหารและเกมส์ จะมีเฉพาะในงานเทศกาลหน้าร้อนเท่านั้น โดยส่วนใหญ่ดอกไม้ไฟจะเริ่มจุดในช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดินเป็นเวลาประมาณ 1-2 ชม. ผู้คนส่วนใหญ่มักมาจับจองที่นั่นงที่จุดชมดอกไม้ไฟก่อนเวลาจริง นอกจากนี้บางเทศกาลยังมีการขายตั๋วที่นั่งสำหรับชมดอกไม้ไฟ แต่ส่วนใหญ่ต้องจองล่วงหน้าและยากสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะซื้อนอกประเทศญี่ปุ่นเพราะต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นในการจอง

เทศกาลดอกไม้ไฟ งานเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมมีผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นถ้าอยากที่จะเพลินเพลินกับการชมดอกไม้ไฟควรจะออกจากบ้านเร็วเพื่อที่จะไปจับจองจุดที่ดูดอกไม้ไฟสวยงามและควรเตรียมพัดหรือเครื่องดื่มที่จะต่อสู้กับความร้อน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารข้างทางที่เรียกว่า Yatai มาตั้งใกล้กับสถานที่จัดงานดอกไม้ไฟ หากมีเวลาเดินเล่นบริเวณรอบๆ ก่อนที่งานเทศกาลดอกไม้ไฟจะเริ่ม ลองกิน "Kakigori" น้ำแข็งใสหรือเพลิดเพลินกับ "Kingyo Sukui" เกมส์ตักปลาทองในถังน้ำด้วยช้อนกระดาษ นอกจากนี้อย่าลืมที่จะใส่ ยูกาตะ เสื้อผ้าญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเพื่อให้อินไปกับบรรยากาศเทศกาลฤดูร้อนที่สนุกสนาน

พิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สูง 3,776 เมตร ชาวญี่ปุ่นเรียกภูเขาไฟฟูจิว่า ฟูจิซัง ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัด Yamanashi และ Shizuoka สามารถ ท่องเที่ยว 5 Fuji Lke ได้แต่ ยะมะนะกะโกะ, คะวะงุจิโกะ, โมโตสุโกะ, โชจิโกะ, ไซโกะ สามารถมองเห็นได้จากโตเกียว และโยโกฮาม่าในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มิถุนายน 2556 ปกติเดินทางโดยรถยนต์ขึ้นไปได้ถึง "ชั้นที่ 5" ของภูเขาไฟฟูจิ ในช่วงฤดูร้อนของทุกปีมีการเปิดให้เดินขึ้นไปถึงยอดเขาได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ปลายเดือนสิงหาคมเป็นเวลาสองเดือนและช่วงที่คนนิยมปีนกันมากที่คือช่วงเทศกาลโอะบ้งกลางเดือนสิงหาคม ชาวญี่ปุ่นทุกคนต้องเดินทางมาเที่ยวที่ภูเขาไฟนี้อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนยอดเขา

1602066_657151864381458_4446395255008838028_o

เส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิมีอยู่ 4 เส้นทางหลัก เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดและให้ความสำคัญกับป้ายบอกทางตามเส้นทางที่เลือก 1.เส้นทางโยะชิดะงุจิ-คะวะงุชิโกะ (Yoshido-Guchi&kawaguchiko) เส้นทางนี้ได้รับความนิยมจากนักปีนเขามากอันดับหนึ่ง เนื่องจากเดินทางไป-มาสะดวก มีที่พักเปิดให้บริการมากมาย เป็นเส้นทางที่นิยมมาก คนจึงหนาแน่นมากโดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 2.เส้นทางฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya) เส้นทางนี้คือเส้นทางที่สั้นที่สุดในการไปถึงยอดภูเขาไฟฟูจิ เหมาะสำหรับนักปีนเขามือใหม่ 3.เส้นทางโกเท็นบะ (Gotemba) เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ลำบากและใช้เวลาในการปีนมากที่สุดเหมาะสำหรับนักปีนเขาที่มีประสบการณ์ 4.เส้นทางชึบะชิริ (Chibashiri) เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เขียวชอุ่มที่สุด สองข้างทางเป็นป่าไม้จึงไม่ร้อนมาก นอกจากนั้นเส้นทางนี้ได้รับความนิยมจากนักปีนเขาน้อย การเดินทางจึงเงียบสงบเหมาะแก่ผู้ชอบความเป็นส่วนตัว

10271436_657152851048026_1677308628725532588_o

10272546_657152431048068_1502171855124814452_o

ระดับเส้นทางพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ ทั้ง 4 เส้นทางมีความต่างในแต่ระดับ ระดับ 1-5 ความสูง 2,000-2,300 เมตร รถบัสสามารถขึ้นมาถึงระดับที่ 5 มีที่พักและร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ระดับ 6 ทางเดินไม่ชันมาก สภาพของพื้นดิน ก้อนหินก็เปลี่ยนไป มีศูนย์ให้คำแนะนำด้านความปลอดภัย ระดับ 7 ความสูงประมาณ 3,000 เมตร มีความชันขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งกรวดและก้อนหินเพิ่มขึ้น มีบ้านพัก ระดับ 8 พื้นเป็นทรายกรวดก้อนหิน ใช้ทั้งมือและเท้าพยุงตัวในการปีนเขา ออกซิเจนก็ยิ่งน้อยมีบ้านพัก ระดับ 9 พื้นเป็นทรายกรวดก้อนหิน มีความชันเกือบ 45 องศา และมีจุดชมวิวสวยจับใจ ระดับ 10 พิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ พบปากปล่องไดโนอินศาลเจ้าคุซึฉิกับศาลเจ้าฟุจิซักฮอนกู พร้อมชม

10497032_657151587714819_6026279296445338061_o

10497123_657149621048349_4345059663106014189_o

10553680_657152497714728_4304110938686853225_o

10560556_657151827714795_4653273966493304420_o

ข้อแนะนำเพิ่มเติมการพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ ส่วนมากผู้คนต้องการชมพระอาทิตย์ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า "โกไรโกะ" พระอาทิตย์จะขึ้นเวลา 4.30 ถึง 5.30 งบประมาณการใช้เงินระหว่างการพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิประมาณ 10,000 - 15,000 เยน สำหรับค่าอาหาร, ค่าน้ำ, ค่าห้องน้ำ, ค่าที่พักและอื่นๆ

10562482_657151604381484_6809225876011862721_o

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.fujisan-climp.jp.en ชมดอกไม้หลากสีในฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นยังมีดอกไม้ต่างๆ ที่สามารถชมได้หลังฤดูของดอกซากุระ ไม่ว่าจะเป็นดอกลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด ดอกอะยะเมะ ดอกคะกิทสุบะตะ ดอกฮะนะโชบุ ดอกอะจิไซ ดอกกุหลาบ เป็นต้น