ทำให้มีเวลาได้เที่ยวเพิ่มต่ออีกนิดหน่อย (แต่ก็ยังน้อยอยู่ดีสำหรับประเทศญี่ปุ่น) เวลาเท่าไหร่ก็เที่ยวไม่พอ แลดูเป็นคนโลภมาก ๆ ก็มันสวยนี่ครับ เที่ยวยังไงก็ไม่หมด | หมู่บ้านชิราคาว่า หรือ ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านที่แสนโรแมนติก...
จากสนามบินนาริตะเช่ารถขับไปกันเอง ถึงจังหวัด Gifu เป้าหมายของเราคือ "หมู่บ้านชิราคาวาโกะ" (Shirakawa-go) หมู่บ้านประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขาโดดเดี่ยวจากโลกภายนอกมาช้านาน ผู้คนยังชีพด้วยการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม ความโดดเด่นอีกอย่างของหมู่บ้าน คือกลุ่มอาคารบ้านเรือนที่สร้างแบบโบราณซึ่งมีอายุมากกว่า 250 ปี ต่อมาองค์การยูเนสโกได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปี1995 โดยหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบแกสโช (Gassho) ซึ่งมีความหมายว่า พนมมือ ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน ซึ่งบ้านจะถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างต่างๆ ล้วนแต่มาจากวัสดุจากธรรมชาติทั้งสิ้น อย่างต้นหญ้าที่ปลูกไว้เพื่อนำมาใช้มุงเป็นหลังคาขนาดหนาแต่ยังคงความแข็งแรงสามารถรองรับหิมะที่ตกมาอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี
ด้วยที่เราทำทัวร์ญี่ปุ่นจึงมีวิธีติดต่อในการได้บ้านที่นี่ (ด้วยถ้าเป็นคนนอกหรือขาจรไม่สามารถเดินดุ่ม ๆ เข้ามานอนในหมู่บ้านได้) เพราะในหมู่บ้านมีบ้านที่เปิดเป็นที่พักเพียง 10 กว่าหลังและมีเงื่อนไขว่าให้พักเพียงคืนเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุผลที่ต้องแบ่งให้คนอื่นพักบ้าง นับเป็นกุศโลบายที่แยบยลมากในการเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จัก และสร้างคุณค่าให้แหล่งท่องเที่ยวด้วย ช่วงที่ผมมานี่ 7วันก่อนหน้านี้เป็นช่วงพีคสุด สวยที่สุดของใบไม้เปลี่ยนสี (ใบไม้แดง) และเหมือนโชคเข้าข้าง ระหว่างทางมาถึงได้เจอหิมะแรกตลอดทาง ทำให้ทั้งหมู่บ้านถูกย้อมไปด้วยสีขาว มาถึงก็มืดแล้วครับ
จัดแจงเก็บของเข้าบ้าน ข้างในบ้านค่อนข้างอุ่น ซึ่งในห้องจะมีฮีทเตอร์ทำความอุ่นอยู่ มีที่นอนกางอยู่ตามจำนวนคน ผ้าห่มแบบหนานุ่ม
รื้อกระเป๋า ตามอัธยาศัยซักพัก เปลี่ยนชุดมาทานอาหารเย็นกัน คุณป้าทำอาหารเย็นเตรียมใว้ให้เราทาน ทั้งน่าตาน่าทานและอร่อย หลังมื้อเย็นผมก็ออกเดินถ่ายรูปบรรยากาศแถวๆ หน้าบ้านครับ หิมะยังตกอยู่ตลอด อยู่ได้ไม่นานครับ หนาววววว..!!
เอาบรรยากาศรอบๆ แถวบ้านมาให้ชมครับ ภายนอกสงบเงียบสงัดมาก หิมะโปรยบาง ๆ สลับ กับ หนาบ้างบางจังหวะ แม้ภายนอกตัวบ้านจะมืด แต่พอเราเดินออกไปตรงถนนจะมีไฟทางสีส้ม โปรยถนนให้เห็นอยู่เป็นหย่อมๆ
ซึ่งทางเดินตรงนี้เป็นทางที่ชันมากครับ ใช้เวลาเดินปกติอาจมีถึง 20-25นาทีได้เลย แต่วันนั้นผมวิ่งขึ้นใช้เวลาประมาณ 10นาที หอบแฮ่กครับ ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งในอากาศแห้ง ๆ แบบนี้ด้วยแล้ว
จุดท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในการสัมผัสบรรยากาศคือการพักค้างคืนในหมู่บ้านชาวนา มีบ้านหลายๆ หลังเปิดให้เป็นที่พักในแบบที่เรียกว่า Minshuku โดยเฉพาะที่ Ogimachi เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่สุดของชิราคาวาโกะ บ้านวาดะ (Wada) และ บ้านนางาเสะ (Nagase) ในโอกิมาชิ (Ogimashi) เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อที่จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ว่าชาวบ้านดำรงชีวิตอย่างไรในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมทุกปี จะมีประเพณีลุยน้ำ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากที่ โกคายาม่า (Gokayama) มี หมู่บ้านอาอิโนะคุระ (Ainokura) ที่ซึ่งหมู่บ้านตั้งตระหง่านท้าทายขุนเขาอยู่ตลอดเวลา และ หมู่บ้านสุกะนุมะ (Suganuma) กับบ้าน 9 หลังที่รวมอยู่ในบ้าน 2 หลัง เป็นสิ่งล้ำค่าที่จะได้มาสัมผัสกับบ้านที่เป็นวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และมีค่าของญี่ปุ่นนี้ จุดชมวิวของ ปราสาทโอกิมาชิ (Ogimashi) ได้รับความนิยมมากสำหรับการชมทัศนียภาพของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ จะสามารถมองเห็นหมู่บ้าน 59 หลังคาเรือน จุดชมวิวนี้เหมาะมากกับการชมภาพมุมกว้างของหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นความเขียวชอุ่มของฤดูใบไม้ผลิ สีน้ำตาลแดงของฤดูใบไม้ร่วง หรือว่าในยามที่มีหิมะตกปกคลุ่ม
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความแข็งแรงทางวัฒนธรรม และเก่งเรื่องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว รู้ว่าอะไรที่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นก็ทำเลย อะไรที่ควรอนุรักษ์ก็อนุรักษ์ แหล่งท่องเที่ยวก็ต้องมีทั้งการพัฒนาและการอนุรักษ์ควบคู่กันไปอย่างใส่ใจและมีทิศทาง นี่แหละคุณค่าของการท่องเที่ยวที่ทำให้คนต่างวัฒนธรรมมาเรียนรู้และอยู่ในอีกวัฒนธรรม
ภาพ : Titipong Paewattanalert
ประเทศ : ญี่ปุ่น
สถานที่ : หมู่บ้านชิราคาว่า
โปรแกรมท่องเที่ยวหมู่บ้านชิราคาว่า
www.travelprothai.com
TRAVELPRO. เที่ยวกับเรา ถูกที่ ถูกเวลา สนุกสนาน คุ้มค่า ได้มากกว่าภาพสวย
No comments:
Post a Comment